ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว

คุณจะหาผู้คนที่สามารถฝึกฝนทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้ จากที่ไหน 
คุณจะฝึกพูดภาษาอังกฤษเวลาที่อยู่คนเดียวได้อย่างไร 
         วันนี้เรามีวิธีฝึกฝนทักษะการพูดภาษาอังกฤษที่ทำได้จริงมาฝากกันค่ะ 
ถ้า คุณไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา คุณควรจะฉวยโอกาสที่คุณมีอยู่เพื่อที่จะพูดให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกับอาจารย์ผู้สอน หรือเพื่อนร่วมห้องเรียนโดยที่ไม่ต้องคอยกังวลว่าคุณจะพูดผิดพูดถูก พูดออกไปเถอะค่ะ 
ภาษา อังกฤษนั้นอยู่รอบตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ภาษาอังกฤษนั้นจะตามไปอยู่รอบกายคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้านต่างๆ ชื่อถนน ป้ายโฆษณาที่แปะอยู่ตามรถเมล์หรือรถไฟฟ้า 

                             นอกจากนั้นแล้วที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คงจะเป็นเหล่าบรรดาตัวเลขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายทะเบียนรถ เบอร์โทรศัพท์ บ้านเลขที่ แล้วเจ้าสิ่งเหล่านี้มันจะช่วยคุณฝึกพูดภาษาได้ยังไงกันล่ะ ก็พูดสิคะ เปล่งเสียงออกมาแต่อย่าดังเกินไปนะคะเวลาที่คุณอยู่คนเดียวหรือเดินคนเดียว ไม่งั้นคนอื่นเขาอาจจะเข้าใจผิดกันได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่บทสนทนาแต่อย่างน้อยการฝึกแบบนี้จะช่วยให้คุณได้คิดถึง ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลายังไงล่ะคะ 
    ลอง หาเพลงสากลที่คุณชอบและเรียนรู้คำศัพท์จากเพลงนั้นๆดูนะคะ การเรียนภาษาอังกฤษจากเพลงและวิดีโอเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากการเรียน การสอนภาษาอังกฤษจากสถาบันชั้นนำต่างๆทั่วโลกแล้วว่าใช้ได้ผลจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเพลงที่เราชอบและตรงกับตัวเราแล้วล่ะก็ เรียนฉิวเชียวล่ะค่ะ 
    เเล้ว นำเพลงที่ชอบมา เเล้วพยายามฝึกร้องและออกเสียงตามนักร้องนะคะ เพราะไม่เพราะไม่เป็นไรแต่ให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นอันใช้ได้แล้วล่ะค่ะ เมื่อคุณร้องจนจำได้ขึ้นใจก็พยายามทำความเข้าใจเนื้อหาและความหมายของเพลงไป ด้วยนะคะ รับรองฝึกฝนแบบนี้ได้ทั้งคลายเครียดและเก่งภาษาอังกฤษไปพร้อมๆกันแน่นอนค่ะ 
ท้าย ที่สุดนี้ขอย้ำกับทุกท่านอีกครั้งว่า อย่ากลัวหรืออายที่จะพูดนะคะ คุณต้องพยายามพูดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ใครจะว่าเราช่างพูดก็ช่างปะไร อย่าได้แคร์เชียวนะคะ เพราะความสามารถทางภาษาเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ใครฝึกใครก็ได้เท่านั้นเองค่ะ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะพูดผิด ในภาษาอังกฤษเอง เขาก็มีคำกล่าวนะคะว่า บุคคลที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดนั้นไม่เคยทำอะไรเลย ดังนั้นเมื่อคุณผิดพลาดแล้วขอให้นำข้อผิดพลาดนั้นมาปรับใช้ให้เป็นบทเรียน เพื่อที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในอนาคตนะคะ ซึ่งคำกล่าวเรื่องนี้สามารถปรับใช้ได้กับทุกเรื่องของชีวิตนะคะไม่ใช่แค่ ภาษาอังกฤษเท่านั้น คนที่ล้มแล้วลุกเท่านั้นที่จะถึงเส้นชัยในที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการฝึกฝนการพูดภาษาอังกฤษค่ะ 


ที่มา www.engtest.net 
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://www.kanzuksa.com/Radio.asp?data=328

แนะนำ 5 เคล็ดลับ…ทำยังไงถึงจะอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง

สำหรับคนไทย การอ่านภาษาอังกฤษต่างๆผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือแม้แต่นิยายภาษาอังกฤษก็ถือเป็นเรื่องยาก และการฝึกอ่านภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่เราพยายามจะหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด

ผมเองเมื่อก่อนก็เคยเกลียดสุดๆเลย พวกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเนี่ย อ่านไปก็ไม่เข้าใจ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย เพราะปัญหามันอยู่ที่ว่า…ภาษาที่ใช้ในในข่าวเป็นภาษาที่ยากที่สุด เพราะคนเขียนข่าวมักใช้คำสั้นและแรงที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจให้ขายข่าวได้นั่นเอง

จากนั้นผมก็เริ่มถอยหลังมา 1 ก้าว เริ่มต้นจากการอ่านอะไรที่มันง่ายๆนี่แหละ นั่งอ่านนิทานอีสป(Aesop’s Fables) เป็นภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล จากนั้นก็เริ่มจับนิยายยอดฮิตอย่าง Harry Potter ขึ้นมาอ่าน แรกๆก็เปิดดิกชันนารี่บ่อยนะ(บ่อยมากๆๆ) แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มชิน แล้วก็พอเดาคำศัพท์จากบริบทได้เอง

ทีนี้ผมมี “หลักการ 5 ข้อในการอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง” มาฝากครับ

1. เลือกอ่านหนังสือเล่มที่อยากอ่านจริงๆเท่านั้น
เพราะจะเป็นแรงบันดาลใจให้อ่านได้ต่อเนื่อง จนเกิดนิสัยรักการอ่านในอนาคต ถ้าเราไปเลือกผิด จับหนังสือที่ไม่สนุก หรือใช้ภาษาที่ซับซ้อนเกินไป ถึงอ่านไปก็ไม่เข้าใจ พาลชวนให้ล้มเลิกความพยายามเสียเปล่าๆ ดังนั้นต้องถามตัวเองก่อนนะว่าเราชอบหนังสือภาษาอังกฤษแนวไหนกันแน่? อาจเป็นการ์ตูนฝรั่ง นิตยสารแฟชั่น หรือแม้แต่นิยายภาษาอังกฤษก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้ทั้งนั้น

2. ถ้ารู้สึกเบื่อหรือหนังสือยากเกินไป ให้หยุดอ่านแล้วเปลี่ยนเล่มใหม่ทันที
แนะนำให้หาเล่มที่อ่านง่ายก่อน เพราะดูเหมือนเราจะยังไม่พร้อมที่จะอ่านเล่มยากๆตอนนี้ ถ้าไม่มีสมาธิ อ่านไปเรื่อยๆยังไงก็ไม่ซึมซับครับ สู้อ่านเรื่องที่เราชอบ หรือถนัดดีกว่า พอมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังสือภาษาอังกฤษแล้วมันก็จะทำให้เราอ่านได้นานๆจนลืมเวลาไปเลยล่ะ 

3. ฝึกเดาความหมายศัพท์ที่ไม่รู้
โดยพิจารณาจากศัพท์หรือประโยคข้างเคียง ถ้าเดาไม่ออกก็ให้อ่านข้ามไปได้ อย่าไปกลัวว่าจะไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดอย่างครบถ้วน เพราะการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั้นเน้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวม และการเห็นคำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์ซ้ำๆ บ่อยๆก็จะจำและตีความได้เอง

4. เปิดพจนานุกรมขณะอ่านให้น้อยที่สุด
มีงานวิจัยด้านภาษาได้ระบุไว้ว่า นักอ่านที่หยุดอ่านเป็นระยะๆ (slow reader) จะมีกระบวนการเรียนรู้ภาษาช้ากว่าคนที่ฝึกอ่านเร็วๆ (speed reader) ในช่วงแรกอาจต้องพึ่งพาดิกชันนารี่ แต่พอผ่านไปถึงจุดๆหนึ่งก็ต้องพึ่งพาตัวเองแล้วล่ะครับ  จะได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายแล้วมีความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่ในหัวก็ยังดีกว่าต้องมาคอยเปิดดิกชันนารี่หาความหมายทุกคำอยู่ดี

5. อ่านหลายๆรอบ

ยิ่งอ่านซ้ำหลายๆรอบ จะช่วยทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องและเพิ่มความสามารถภาษาอังกฤษได้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ อ่านไปเถอะครับ ไม่ต้องไปนับว่ากี่ครั้ง จะเป็นสิบ หรือเป็นร้อยรอบแต่ถ้ามันทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ อ่านข่าวภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ก็คุ้มค่าแล้วจริงมั้ย?

ถ้าเราจับจุดถูกต้องหยิบหนังสือที่เราชอบขึ้นมาได้ละก็ เรื่องยากๆก็จะดูเป็นเรื่องสนุกสำหรับเราเลยทีเดียว ลองหาหนังสือภาษาอังกฤษที่ชอบมาอ่านซักเล่มนะครับ แล้วจะรู้ว่าการ ฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ไม่ได้ยาก หรือน่าเบื่ออย่างที่คิดเลย เผลอๆอาจทำให้เราเรียนภาษาอังกฤาได้ดีขึ้นด้วย ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านภาษาอังกฤษนะครับ

ไหนๆก็รู้เคล็ดลับแล้ว ลอง Download หนังสืออ่านนอกเวลาภาษาอังกฤษไปอ่านกันได้ที่นี่เลยครับ 

ขอขอบคุณ  Daily English English for everyone 

http://www.dailyenglish.in.th/5-reading-tips/

Profile

\

Nisreen

Personal Information

Name                  :  Nisreen

Nationality           : Thai

Religion               : Islam

Marital status       : Single

Education         

Study                   :  B.A. in English, Education, Nakhon si Thammarat Rajabhat University

High school          :  Wiangsuwan witthayakom School, Waeng, Narathiwat

Primary School     :  Ban Tolae School,Waeng, Narathiwat

Skill

Other Language   :  English, Thai, Malay 

ลักษณะครูทีดี Good Teacher

จากการศึกษางานวิจัย และค้นคว้าจากแหล่งต่างๆ  พบว่าครูที่ดีควรมีคุณลักษณะที่จำเป็น 3 ด้านต่อไปนี้

ด้านคุณลักษณะ

1.             มีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และพร้อมที่จะพัฒนาวิชาชีพของตนอยู่เสมอ

2.             ประพฤติตนเป็นแบบอย่างแก่ผู้เรียน ทั้งด้านศีลธรรม วัฒนธรรม กิจนิสัย สุขนิสัย และอุปนิสัย ตลอดจนมีความเป็นประชาธิปไตย

3.             ใฝ่รู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

4.             มีความเมตตาแก่ศิษย์ และเห็นคุณค่าของศิษย์

5.             มีสุขภาพสมบูรณ์

6.             มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางวิชาการ และสามารถใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้

7.             มีบทบาทในการพัฒนาชุมชน และสามารถเป็นผู้นำชุมชนได้

8.             สามารถใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ภาษา และการวิจัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง

9.             สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นครูแบบใหม่ในระบบสากลได้ คือ

1.             เป็นครูที่เน้นความหลากหลายเพื่อตอบสนองต่อผู้เรียนเป็นหลัก แนะนำผู้เรียนสามารถพัฒนาเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพและสร้างสรรค์ และให้ข้อมูลสะท้อนกลับผู้เรียนได้อย่างต่อเนื่อง

2.             รู้วิทยาการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น เพราะการศึกษายุคใหม่เป็นการศึกษาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น

3.             เป็นครูที่ต้องไปหานักเรียนมากขึ้น เข้าเยี่ยมชุมชนได้มากขึ้น

ด้านความรู้ของครู

1.             มีความรู้ในวิชาที่สอนอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมโยงทฤษฎีในศาสตร์ความรู้มาสู่การปฏิบัติได้ ทั้งการปฏิบัติในระดับสากลและในระดับท้องถิ่น

2.             มีความรู้ด้านการวิจัย วิทยาการคอมพิวเตอร์และภาษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการ แสวงหาความรู้

3.             มีความรู้ด้านเทคนิคการสอน จิตวิทยา การวัดและประเมินผล และสามารถประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

4.             รู้ข้อมูลข่าวสารรอบตัว และเรื่องราวในท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และฝึกให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์วิจารณ์ได้

ด้านการถ่ายทอดความรู้

1.             สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการสอนต่าง ๆ เพื่อจัดบรรยากาศการเรียนรู้ที่น่าสนใจ และผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียน ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงความรู้นั้นสู่การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ หรือใช้ในการเรียนรู้ต่อไป

2.             สามารถอบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีศีลธรรม วัฒนธรรม กิจนิสัย สุขนิสัย และอุปนิสัย รวมทั้งรักในความเป็นประชาธิปไตย เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข

3.             สามารถพัฒนาให้ผู้เรียนใฝ่รู้ และก้าวทันเทคโนโลยี ตลอดจนสามารถใช้ภาษา สื่อสารกันได้ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

4.             สามารถ พัฒนาให้ผู้เรียนมองกว้าง คิดไกล และมีวิจารณญาณที่จะวิเคราะห์และเลือกใช้ข่าวสารข้อมูลให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองได้

5.             พัฒนาให้ผู้เรียนเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของชุมชน สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาชุมชน และแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนได้

 credit : www.ru.ac.th  ,  www.jobthaiweb.com ,  www.ksp.or.th


ขอขอบคุณบทความดีๆจาก  กระทรวงศึกษาธิการ   http://www.moe.go.th/moe/th/blog/view-blog.php?memberid=1402

ปัญหาในการสอนภาษาอังกฤษของครูฝึกสอน

ปัญหาในการสอนของฉัน เมื่อตอนที่เป็น นักศึกษาฝึกสอน
             หลายๆคนอาจจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้น่ะ เเต่สำหรับวันนี้จะขอเเชร์ประสบการณ์การสอนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย

ปัญหาในการสอน
      1. นักเรียนมีความสามารถในการเรียนต่างกัน ทำให้ครูจัดการเรียนการสอนได้ยากขึ้น ต้องเพิ่มกิจกรรมสำหรับนักเรียนที่อ่อนทั้งๆนักเรียนที่พออ่านได้ในระดับปกติ สามารถเสริมเนื้อหาเพิ่มได้เเล้ว
      2. นักเรียนไม่ฟังครู ไม่เคารพครูฝึกสอน ทำให้ครูคุมชั้นเรียนได้ยากขึ้น
      3. นักเรียนมีเจคติที่ไม่ดีต่อการเรียนรู้ภาษา ไม่ชอบเลย ไม่รับการเรียนรู้ที่ครูพยายามสอนเลย
      4. นักเรียนยังไม่รู้จักการเทียยบเสียงเลย ไม่รู้จักพยัญชนะ หลักการที่สำคัญที่คนไทยขาด คือ หลักการที่ทำให้นักเรียนรู้จักพยัญชนะ สามารถประสมคำในภาษาอังกฤษได้ก่อน เเล้วค่อยเรียนคำศัพท์ เเละการอ่านต่อไปตามลำดับ
      5. นักเรียนกินขนมในห้องเรียน ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น
      6. นักเรียนพาโทรศัพท์มือถือมาเล่นเกมในห้องเรียน เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง ถ้าท่านรักลูกท่าน ก็อย่าให้ลูกของท่านพกโทรศัพท์มาโรงเรียน (นักเรียนระดับประถม) เเต่ ในกรณีที่จำเป็นให้ฝากไว้ที่ครูที่ปรึกษา ถ้าในกรณีที่ผู้ปกครองมีธุระสำคัญ
      7. ทางโรงเรียนควรเน้น เข้มงวดมาตรการในการลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดกฎของโรงเรียน เป็นตัวอย่างให้นักเรียนคนอื่นเห็น เเละเอาจริงเอาจัง
      8. ครูเเละโรงเรียนควรสร้างบรรยากาศในการเตรียมความพร้อมในการเตรียมใช้ภาษาต่างประเทศให้ความสำคัญ เช่น สร้างบรรยากาศให้เป็นการเรียนรู้ ทำป้ายต่างๆเป็นภาษาอังกฤษ เเละมีโครงการต่อเนื่องในการกระตุ้นให้ผู้เรียนรักการเรียนรู้ภาษาต่อไป

ครูต้องเอาใจใส่นักเรียนทุกคนเป็นรายบุคคล 

       

เมื่อนักเรียนมีความรู้สึกเบื่อต่อการเรียนภาษา

คุณครูที่รัก My lovely English teacher.

  สวัสดีค่ะทุกคน Hi, everyone.
               วันนี้รู้สึกพิเศษหน่อยน่ะ เพราะจะเล่าถึงเเรงบรรดาลใจในการเป็นครูภาษาอังกฤษ ฉบับเต็ม 1 ปี
ก่อนอื่นเลย ขอเเนะนำ คุณครูท่านนี้ She name is Somya Damnuan. She is my teacher.
                เราจะมารู้จักกับเธออย่างเป็นทางการ เพราะเธอคือเเรงบรรดาลใจเเละสามารถทำให้ฉันมองอนาคตของตัวเองในการเป็นครูภาษาอังกฤษได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
                คุณครูท่านนี้ มีนามว่า สมยา ดำนวล เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ในระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดสระประดิษฐ์ (เมื่อรู้จักเเล้ว เรามาดูสิ่งดีๆที่ครูคนนี้ได้ทำให้ฉันมีเเรงบบรดาลใจ)

เอ๋.............พร้อมเเล้วยังเอ่ย อิอิ

@ Hua Taphan yard.

               วันเเรกที่ฉันเข้าฝึกสอน ณ โรงเรียนเเห่งนี้ ยังไม่รู้เลยว่าครูท่านไหนที่จะมาเป็นครูพี่เลี้ยงให้เรา เเละเเล้วครูคนนี้ก็เข้ามาในห้อง ท่าน ผอ.เลยเเนะนำว่า ครูท่านนี้เเหละเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศ

เอะ............รู้สึกกลัวๆๆๆทำตัวไม่ถูก กลัวว่าเราจะสอนได้ไม่ดี เเต่จะทำให้สุดความสามารถ (คิดในใจ)

                เมื่อได้ฝึกสอนหลายๆวัน ฉันมองเห็นความเก่งของท่าน ไม่ว่าการสอนของท่าน ครูคนนี้สอนเก่งมากมีกลวิธีในการสอนเยอะมาก ไม่เคยซ้ำเลยสักครั้ง ทำให้นักเรียนชอบมากๆ มีทั้งเกม การร้องเพลง เเละมี chant ในรูปแบบที่สนุกๆแปลก ปลื้มมากๆ

ทุกๆครั้งที่ข้าพเจ้า สอน ครูจะคอยชี้เเนะ เเนะนำ เสมอเเละจะคุยได้ทุกเรื่อง ครูคนนี้ไม่ได้เก่งเเค่เรื่องการสอนเท่านั้น เเต่งานประดิษฐ์ ทำโมบายเเบบผู้หญิ๊งผู้หญิง ก้อทำได้  (เห็นไหมล่ะ)

        1. เมื่อมีปัญหาเรื่องนักเรียน จะเข้าไปปรึกษาตลอด

        2. ให้คำปรึกษาเรื่องการปฏิบัติในหน้าที่ครูควรวางตัวให้ดี เราสามารถช่วยเหลือตนเอง อย่าไว้ใจคนอื่น

        3. บางครั้งเป็นเพื่อนที่สามารถปรึกษาพูดคุยเรื่องส่วนตัวได้ เเละอีกอย่างเป็นคนที่ใจดีมากๆ เคยเเม้กระทั่งให้เงินเเก่ข้าพเจ้ากินขนมเล่นอ่ะ

       4. ใจดีมากๆสอนพิเศษไม่คิดตังค์ ยอมเสียเวลาตนเองเเต่หวังให้นักเรียนได้ความรู้เต็มที่ ให้รักการเรียนภาษาเเละให้ความสำคัญในการเรียน เเละอีกมากมายบอกไม่หมดเลย

@ sheep farm Rarchaburi

              เมื่อได้เจอครูที่เเสนดีเเบบนี้ ทำให้เรามีเเรงบับนดาลใจในการสอน ความเหนื่อยก็หายไป ครูคนนี้เคยพูดเสมอว่า "ถ้าเราได้ทำความดีด้วยความจริงใจ สักวันสิ่งที่ดีๆเหล่านั้นจะกลับคืนมาหาเรา จะทำให้ลูกหลานเราได้รับความดีนั้นไปด้วย" อย่าคิดร้ายกับคนอื่น อยู่ให้เราสบายใจดีที่สุด

              ท้ายนี้ ขอขอบคุณ ครูท่านนี้มาก Thank you very much. ประสบการณ์การสอนครั้งนี้หาซื้อไม่ได้เลย เเละความเป็นครูในตัวใครสักคนนั้น ไม่ใช่มีได้ง่ายๆ 

ด้วยรักเเละเคารพ

Nisreen 

New  teacher

My friends.

เมื่อเรียนปีเเรกๆ รู้สึกว่าตัวเองต้องพูดเก่งให้ได้โดยเราต้องมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ

              เมื่อไม่นานก็มีโอกาสไปกระบี่ โอกาสครั้งนี้ทำให้เจอเพื่อนๆที่สามารถ speak English กับเราได้เเล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ทุกครั้งที่เจอชาวต่างชาติจะเข้าไปคุยตลอด ไปแบบกลัวๆกล้าแบบนั้นเเหละ พูดไม่เป็นบางครั้งก็ใช้ภาษามือในการสื่อสาร เห็นไหม เรียนรู้ภาษาไม่จำเป็นต้องเก่งเเล้วค่อยไปพูด ฝึกได้น่ะน้องๆ

เเค่เรากล้าที่จะเรียนรู้ภาษาเเค่นั้นเอง สู้ๆๆๆๆ น่ะ

น่ารักไหมล่ะค่ะ

นี่ก็เป็นอีกคู่ที่น่ารักสุดๆ lovely friends on the shuttle bus. Krabi

English major

                 หลังที่สอบได้เเล้ว ก็เข้ามาเรียน ใน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

Nakhon si Thammarat Rajabhat University เเห่งนี้เเล้ว 

เพื่อนๆเหล่านี้เเหละ คือเพื่อนร่วมชั้นของฉัน จนถึง วันนี้ 

เเหละนี่ ก็คืออนาคตของชาติเลยน่ะ อิอิ

เพื่อนๆทุกคนเรียนเก่งหลายๆคน ทำให้ฉันต้องผลักดันตัวเองให้เรียนได้เท่าๆเพื่อน พยามไล่ให้ทัน ทุกวิชาที่เรียนก็มีทั้งเรียนกับ อาจารย์ไทยเเละอาจารย์ต่างชาติ อยากจะบอกว่า เราเด็กบ้านนอกไม่เคยเจอชาวต่างชาติเลย รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย (เเต่ก็สนุกดี) พูดกับต่างชาติเเบบ ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ (foot, fish, for, five) แห่ๆ ถ้าจำเเบบนี้ก็ดีสิน่ะ

English Major 02 

เพื่อนๆ ห้อง สอง ค่ะ

ได้มีโอกาส ร่วมเข้าอบรมภาษาอังกฤษ

การนำเสนอวิจัยระดับเยี่ยมยอด ด้วย 

คุณครู เก่งมากๆ

ทำไมเราถึงชอบภาษาอังกฤษ

สมัยมัธยมต้น ไม่เคยชอบภาษาเลย เพราะตัวเองนั้นเรียนสาย วิทย์-คณิต มาโดยตลอด ไม่ได้เก่งหรอกน่ะ เเต่ตามคนได้ เรียนไม่เก่งมากหรอก เเต่เกรดไม่เคยตก คิดเสมอว่า เราเรียนประถมมาจากโรงเรียนบ้านๆไม่น่าจะเรียนเก่งเท่าเพื่อนๆได้ พอเรียนไปเรียนมา เอะ เราก็เรียนได้นิ 555 พอเรียนมาถึงมัธยมปลายก็ยังไม่ได้ชอบภาษาหรอก กระทั่งเรียนใกล้จบเเเระ เรียนมาถึง ม.6 มีครูคนหนึ่งชื่อ ครูโซเฟีย อาเเว เป็นครูเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ จบ จากจุฬาฯ โน้น ครูคนนี้เก่งมากๆเลย ทำให้ฉันชอบเรียนภาษา ครูชอบให้เราเรียนรู้คำศัพท์จากเพลง เเต่เราเองไม่ได้สนิทกับครูคนนั้นเท่าไหร่เพราะคนเรียนไม่เก่งอ่ะน่ะ เมื่อจะเข้าสอบในระดับอุดมศึกษา เลยลองลง เอกภาษาอังกฤษเล่นๆ แต่ปรากฎว่าได้ ทีนี้เเหละ งานเข้า วันสอบสัมภาษณ์ลุ้นว่าตัวเองทำได้ไหม เเต่ก็ ผ่านค่ะ
รู้ไหมเราเลือกเรียนครูภาษาอังกฤษน่ะ เอะบุคลิกเราหรอจะสอนได้ คิดฝันตั้งนาน ว่าทำได้ไหม เเต่ก็เรียนมาอยู่ในระดับกลางๆของมหาวิทยาลัยเชียวน่ะ นี้เเหละชีวิตที่เริ่มชอบภาษาอังกฤษของฉัน

เดี่ยวมาต่อพรุ่งนี้น่ะ

ทำไมต้องเรียนภาษาอังกฤษ

10 เหตุผลทำไมเราต้องเรียนภาษาอังกฤษ

1.?ภาษาอังกฤษคือภาษาที่เป็นทางการของโลก?ถึงแม้ว่าภาษาจีนจะมีคนพูดมากที่สุดก็ตาม

2.?เหตุผลทำไมเราต้องเรียนภาษาอังกฤษ : เพิ่มโอกาสของการได้งานดีๆ และมีรายได้มากขึ้น

3.?ภาษาอังกฤษ ถูกใช้เป็นทางการในกว่า 53 ประเทศทั่วโลก

4.?มีคนกว่า?400 ล้านคนทั่วโลก?พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

5.?ในแวดวงสื่อแล้ว ยังคงใช้ภาษาอังกฤษในการนำเสนอและติดต่อสื่อสารเป็นหลัก

6.?ในอินเตอร์เน็ตก็เช่นกัน ภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาหลักของโลกอินเตอร์เน็ต

7.?เหตุผลทำไมเราต้องเรียนภาษาอังกฤษ : ภาษาอังกฤษเรียนรู้ง่าย เพราะมีตัวอักษรเพียงแค่ 26 ตัว

8.?การเรียนรู้ภาษา จะช่วยให้เกิดความภูมิใจที่ได้เรียนและเข้าใจภาษาใหม่ๆ

9.?ในหลายๆโรงเรียน สถาบัน และมหาวิทยาลัยทั่วโลก เปิดสอนสาขาวิชาต่างๆเป็นภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น แม้ประเทศนั้นจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักก็ตาม

10.?เหตุผลทำไมเราต้องเรียนภาษาอังกฤษ : ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ของประเทศนั้นผ่านภาษา โดยไม่ใช่ประเทศอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว ขอบคุณที่มา?http://visual.ly/

บทความดีๆจาก  http://teen.mthai.com/education/74265.html

ทักษะและเคล็ดลับในการเรียนภาษาอังกฤษ

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเรียนภาษาอังกฤษได้ไม่นาน หรือเรียนมาแล้วเป็นปีๆ แต่คุณก็ได้เริ่มต้นการเรียนแล้ว คุณมีกลวิธีในการเรียนไหม? แนวทางการเรียนภาษาอังกฤษมีอยู่มากมายหลากหลายวิธี แล้ววิธีไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด? คำตอบก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเรียนและเป้าหมายในการเรียนของคุณ ก่อนจะเริ่มเรียน หยุดคิดสักนิดว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร และทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายนั้นอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เนื้อหาต่างๆ ที่เรารวบรวมไว้ที่นี่จะช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ